ประธานาธิบดีปากีสถานลงนามอนุมัติ ร่างกฎหมายต่อต้านข่มขืนฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดโทษหนักขึ้นสำหรับผู้กระทำความผิด และเร่งรัดคดีให้รวดเร็ว นอกจากนั้นยังกำหนดให้ใช้วิธี ฉีดยาให้ไข่ฝ่อ (chemical castration) หรือฉีดสารเคมีให้หมดความรู้สึกทางเพศ สำหรับนักโทษคดีข่มขืนที่กระทำผิดซ้ำ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีอารีฟ อัลวี ของปากีสถาน ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายต่อต้านข่มขืนฉบับใหม่ Anti-Rape Ordinance 2020 เมื่อวันอังคาร (15 ธ.ค.) ซึ่งกำหนดให้การดำเนินคดีข่มขืนในศาล ต้องรวดเร็ว ตัดสินคดีภายในเวลาไม่เกิน 4 เดือนต่อคดี และกำหนดโทษหนักขึ้นสำหรับผู้กระทำความผิด รวมถึงการฉีดยาให้ไข่ฝ่อ สำหรับนักโทษคดีข่มขืนที่ก่อเหตุซ้ำ นอกจากนั้นยังจะปกปิดตัวตนผู้ตกเป็นเหยื่อ และขึ้นบัญชีเปิดเผยตัวผู้กระทำความผิด ให้ประชาชนทราบทั่วประเทศ

ปากีสถาน ประเทศมุสลิมอนุรักษนิยมลึกซึ้ง และมีค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่ในครอบครัว ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อประทุษร้ายทางเพศ เกิดความกลัวไม่กล้าแจ้งความ หรือเปิดเผย หรือการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ มักไม่ได้รับความสนใจ สอบสวนดำเนินคดีอย่างจริงจัง
 
เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ชาวปากีสถานส่งเสียงประณามทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์หญิงคนหนึ่งขับรถยนต์ไปกับลูกน้อย 2 คน แถบชานเมืองใหญ่ลาฮอร์ แต่รถยนต์น้ำมันหมด ต้องจอดริมทางมอเตอร์เวย์ และเธอถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมโทรมข้างทาง ต่อหน้าลูกทั้ง 2 คน และในวันถัดมา ผู้บัญชาการตำรวจเมืองลาฮอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า หญิงผู้เสียหายมีส่วนสมยอมในการข่มขืน

นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน สนับสนุนการกำหนดโทษหนักขึ้นในกฎหมายฉบับใหม่ รวมถึงการฉีดสารเคมีระงับความรู้สึกทางเพศ สำหรับนักโทษคดีข่มขืนที่ก่อเหตุซ้ำ และควรประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ผู้กระทำความผิดฐานข่มขืนและฆ่า แต่วิธีนี้อาจส่งผลกระทบทางการค้า กับกลุ่มประเทศหุ้นส่วนที่ต่อต้านโทษประหารชีวิต เช่น สหภาพยุโรป

รัฐบาลปากีสถานมีเวลา 120 วัน หลังการลงนามของประธานาธิบดี ในการนำร่างกฎหมายฉบับใหม่ เสนอสู่การพิจารณาและลงมติรับรองจากที่ประชุมรัฐสภา เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งหากผ่านก็จะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยสมบูรณ์