รัฐบาลเมียนมารายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 700 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเป็นมากกว่า 30,000 คน ภายในเวลาประมาณ 6 เดือนเท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่ากระทรวงสาธารณสุขของเมียนมารายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด จนถึงเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธที่ผ่านมา ยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 888 คน เพิ่มสถิติสะสมของผู้ป่วยเป็นอย่างน้อย 31,325 คน รักษาหายสะสมอย่างน้อย 13,866 คน อนึ่ง เมียนมายืนยันผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม ในรอบวันเดียวกันมีผู้เสียชีวิตอีก 39 คน ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเมียนมา สะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 732 คน ทั้งนี้ เมียนมารายงานสถิติผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคโควิด-19 เพิ่มเป็นมากกว่า 600 คน เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ผ่านหลัก 500 คน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เกิน 400 คน เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ก่อนหน้านั้นสถิติสะสมของผู้เสียชีวิตผ่านหลัก 300 คน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เกิน 200 คน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. และผ่านหลัก 100 คน เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา
 
ด้านนางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐและรมว.กระทรวงการต่างประเทศเมียนมา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ว่าอัตราการแพร่ระบาดของโรคยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้งและพื้นที่ใกล้เคียง สิ่งที่ทุกฝ่ายวิตกกังวล คือการที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวและไม่แสดงอาการป่วย
 
ขณะเดียวกัน นางซูจีกล่าวด้วยว่า แพทย์เริ่มใช้ยาเรมเดซิเวียร์รักษาผู้ป่วยบางราย ซึ่งเป็นยาชนิดเดียวกับที่แพทย์ของสหรัฐใช้รักษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่รัฐบาลมียาดังกล่าวสำรองอยู่ไม่มากนัก และยังไม่เป็นที่ชัดเจนด้วยว่า ยาตัวนี้มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ตลอดจนผลข้างเคียงจากการใช้ยาด้วย ดังนั้นการรักษาสุขภาพและปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุขที่ภาครัฐกำหนด จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ณ เวลานี้